Skip to content

- เป็นที่นอนที่มีการตอบสนองได้ตามมาตรฐาน :
คือที่นอน
Topper Hybrid นั้นส่วนใหญ่แล้วเป็นการผสมผสานระหว่างที่นอนแบบ Innerspring กับวัสดุประเภทต่างๆ เช่น ยางพารา
หรือเม็มโมรี่ดฟม ทำให้มันมีคุณสมบัติพิเศษ ในการตอบสนองได้ตามมาตรฐานของวัสดุนั้นๆ
ผสานกับการตอบสนองของคุณสมบัติพิเศษของสปริง ทำให้ที่นอนไฮบริดนั้นมีความนุ่ม สบาย
แต่ราคาค่อนข้างถูกเลยทีเดียว
- เงียบและช่วยลดการเคลื่อนไหวระหว่างการนอนหลับ : ปัญหาหลักๆ ของที่นอน Innerspring คือมันทำให้เกิดเสียงระหว่างการนอนหลับได้ดีกว่าที่นอนอื่นๆ
แค่พลิกตัวเสียงดังก็จะเกิดขึ้นแต่ถ้าเป็นที่นอน Topper แบบ Hybrid
เสียงจะเบาลง
เพราะมีชั้นของวัสดุอื่นๆ เข้ามาเสริม
ทำให้คุณไม่จำเป็นต้องทนทุกข์กับเสียงที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการนอนหลับ
- ระบายความร้อนและความชื้นได้เป็นอย่างดี :
โดยที่นอน
Topper แบบ Innerspring นั้นเป็นที่นอน ที่มีประสิทธิภาพสูงที่จะระบายความร้อนระหว่างการนอนหลับ
เพราะภายในเต็มไปด้วยช่องว่างจากพื้นที่สำหรับให้สปริงยืดและหดตัว
นอกจากนั้นที่นอนประเภทนี้ยังถือว่าเป็นที่นอน ที่ไม่สะสมความชื้นมากเกินไปอีกด้วย
ทำให้การนอนหลับของคุณไม่ถูกรบกวนจากความชื้นระหว่างการนอนหลับ
- ราคาถูกกว่าที่นอนแบบยางพารา หรือเม็มโมรี่โฟม :
เพราะมันเป็นวัสดุที่มีการผสมผสานระหว่างวัสดุดังกล่าวกับที่นอน
Topper Innerspring ทำให้ราคาของมันไม่แพงเท่ากับที่นอนยางพาราทั้งแผ่น หรือเม็มโมรี่โฟมทั้งแผ่น
ในขณะเดียวกันก็ให้ผิวสัมผัสและความสบายที่ใกล้เคียงกัน