Skip to content

- ควรทำการซักผ้าปูที่นอน หรือผ้าปูที่นอน Topper
ครั้งละ
1 ผืนต่อรอบเท่านั้น (กรณีซักเครื่อง) เพื่อที่ว่าเครื่องจะได้สามารถทำความสะอาดผ้าปูที่นอนผืนนั้นได้อย่างลึกล้ำ
ควรทราบว่าหากใส่ผ้าปูที่นอนมากเกินไป ประสิทธิภาพในการกำจัดคราบสกปรกจะลดลงอย่างเห็นได้ชัด
นอกจากนั้นผ้าที่มากเกินไปอาจส่งผลต่อการทำงานของเครื่องในระยะยาวได้
- เลือกน้ำยาซักผ้าที่เหมาะสำหรับผ้าปูที่นอนของคุณ
สำหรับผ้าขาวควรเลือกน้ำยาซักผ้าขาว ซึ่งจะทำให้ที่นอนของคุณดูขาวสว่างมากขึ้น
อย่างไรก็ตามหลีกเลี่ยงการใช้งานไฮโดรเจนเปอร์อ็อกไวด์ ในกระบวนการซักผ้าปูที่นอน
เพื่อป้องกันไม่ให้เส้นใยของผ้าปูที่นอนถูกทำลาย หรือเสื่อมสภาพได้ง่าย
- เลือกซักผ้าปูที่นอนของคุณด้วยน้ำร้อน (32-35
องศาเซลเซียส) เป็นเวลา 1.30 ชั่วโมง เนื่องจากน้ำร้อนนั้น จะมีผลทำให้คราบที่ติดแน่นบนเนื้อผ้า
นั้นหลุดออกมาได้ง่ายมากขึ้น อีกทั้งทำให้ผ้าขาวสะอาดน่าใช้งานมากขึ้นอีกด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตามอย่าลืมตรวจสอบฉลากของผ้าปูที่นอนของคุณด้วย
ว่าสามารถซักได้ที่ความร้อนสูงสุดเท่าไหร่
เพื่อป้องกันไม่ให้เนื้อผ้าเสียหายจากอุณหภูมิระหว่างกระบวนการซัก
- ควรทำการอบผ้าปูที่นอนทุกครั้งหลังการซัก
เพื่อการตากแห้งที่รวดเร็วมากขึ้น
- ทำการตากผ้าปูที่นอน
ในพื้นที่ที่มีแสงแดดอย่างเพียงพอ หรือมีอากาศถ่ายเทได้สะดวก (ผ้าปูที่นอนของคุณควรแห้งภายใน
1-3 ชั่วโมง หลังการอบแห้งแล้ว)